คุณหมอยืนยันว่าคนที่ตายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด -19

คุณหมอยืนยันว่าคนที่ตายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด -19

คุณหมอยืนยันว่าคนที่ตายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 นั้นเชื้อโรคจะไม่แพร่สู่คนอื่นแน่นอน

           ก่อนหน้านี้มีการรายงานข่าวออกมาถึงผลกระทบที่เกิดจากวัดและสัปเหร่อที่ทำหน้าที่เผาศพคนที่ตายจากการติดเชื้อไวรัส โควิด -19 ว่าประชาชนส่วนใหญ่เมื่อทราบข่าวว่าสัปเหร่อคนไหนที่ทำการเผาศพให้กับคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด -19ก็จะมีการรังเกียจโดยการรังเกียจนี้ยังลามไปถึงการไม่กล้าเข้าไปในบริเวณวัดที่เคยมีการจัดงานศพให้กับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด -19อีกด้วยเนื่องจากว่าหลายคนเข้าใจว่าในศพของผู้เสียชีวิตนั้นยังคงมีเชื้อโรคปนอยู่

และเชื้อโรคก็สามารถแพร่กระจายผ่านทางอากาศออกมาได้ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เองทำให้มีช่วงนึงที่มีข่าวออกมาว่ามีสัปเหร่อคนหนึ่งถูกแอนตี้จากคนภายในหมู่บ้านเพราะมาเผาศพให้คนติดเชื้อไวรัสโควิด -19และผลกระทบไม่ได้ตกอยู่ที่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้นยังลามไปถึงคนในครอบครัวของเขาเช่นระยะของเขาที่ถูกบริษัทที่ทำงานสั่งให้พักงานเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเป็นการชั่วคราวถึง 14 วันเพื่อต้องการดูอาการว่ามีการติดเชื้อไวรัสมาจากสามีที่ทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อ

หรือไม่รวมถึงยังมีการบังคับให้ไปทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด -19ก่อนที่จะเดินทางกลับมาทำงานได้ซึ่งผลกระทบนี้ทำให้หลายคนที่เป็นสัปเหร่อมีความเป็นกังวลใจว่าถ้าหากต้องรับเผาศพของคนที่ติดเชื้อไวรัสแล้วจะต้องมาวุ่นวายในการที่จะต้องไปทำการตรวจหาเชื้อและคนแถวบ้านก็จะรังเกียจ

       สำหรับข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยออกมาจากโรงพยาบาลรวมถึงสถาบันที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19เช่นสถาบันบํารุงราศนราดูรได้ออกมายืนยันผ่านทางสื่อเพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด -19จะไม่สามารถแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นหรือพื้นที่สาธารณะได้เพราะก่อนที่จะมีการนำศพออกมาจากทางสถาบันหรือจากทางโรงพยาบาลนั้นเจ้าหน้าที่ของทางสถาบันและของทางโรงพยาบาลจะต้องมีการฆ่าเชื้อ

โดยการนำยาฆ่าเชื้อฉีดบริเวณศพก่อนหลังจากนั้นก็จะมีการใส่ถุงซิปล็อคซึ่งจะมีการใส่ถุงซิปล็อคให้กับศพที่มีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าถึง 3 ชั้นด้วยกันและแต่ละชั้นทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและสถาบันบําราศนราดูร ยังไม่มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อของแต่ละชั้นให้อีกด้วยจึงมีการปิดซิปล็อคอย่างดีและที่สำคัญทางโรงพยาบาลและทางสถาบันจะนำศพที่อยู่ในถุงซิปล็อค 3 ชั้นนั้น

ใส่ไปในโลงซึ่งโลงศพที่ใส่ให้นั้นก็มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อให้เรียบร้อยแล้วรวมถึงเมื่อนำศพใส่ไปในโรงแล้วก็ยังมีการนำตะปูปิดฝาโลงทั้ง 4 มุมเพื่อไม่ให้มีใครสามารถที่จะ มาเปิดฝาโลงขึ้นมาได้ 

รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนขนย้ายโรงศพไปยังวัดและพาหนะเช่นรถตู้ที่จะมีการเคลื่อนย้ายศพไปที่วัดต่างก็ได้รับการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้วดังนั้นทุกอย่างที่เกี่ยวกับศพของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจึงผ่านการฆ่าเชื้ออย่างมากทุกขั้นตอนซึ่งประชาชนสามารถวางใจได้เลยว่าเชื้อไวรัสจากศพจะไม่สามารถแพร่ออกมาสู่สาธารณชนได้