ประโยชน์ที่แท้จริงของการเล่นพิลาทิส

ประโยชน์ที่แท้จริงของการเล่นพิลาทิส

พิลาสิส เป็นหนึ่งในกิจกรรมการออกกำลังกายที่คนส่วนใหญ่นั้นให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการออกกำลังกายที่มีความคล้ายคลึงกับการเล่นโยคะ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่คนเกาหลีนั้นนิยมกันเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบมากแค่ไหนก็ตาม เพราะการออกกำลังกายในรูปแบบของการเล่นพิลาทิสนั้น

ประโยชน์ที่แท้จริงของการเล่นพิลาทิส เป็นการออกกำลังกายที่ไม่เพียงแค่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย แต่ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจ

และช่วยรักษารูปร่างให้คงความสวยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้การเล่นพิลาทิสยังเป็นการออกกำลังกายแบบเบา ๆ    แทงหวย   ช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และบรรเทาความเครียดได้ ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า ประโยชน์ของการเล่นพิลาทิสนั้นจะมีประโยชน์อะไรแก่ร่างกายของเราบ้าง ไปดูกันเลย 

ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพได้ เนื่องจากกิจกรรมประเภทนี้เป็นกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายของเราได้ออกกำลังกายแบบสบาย ๆ แต่ก็สามารถช่วยสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย รวมไปถึงช่วยทรงตัว ช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้การเล่นกิจกรรมประเภทนี้เป็นประจำ ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาบุคลิกภาพ ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 

ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มีความเสี่ยงต่อการมีอาการปวดหลังกันเยอะมาก ๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการเล่นพิลาทิสเป็นประจำนั้น จะมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี เพราะการออกกำลังกายในรูปแบบนี้จะเน้นไปตรงที่ หัวไหล่ ลำตัว หลัง และเอว รวมไปถึงบริเวณหน้าท้องของเราอีกด้วย ซึ่งก็ไม่แปลกที่คนที่เล่นจะมีรู้สึกผ่อนคลาย และไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดหลัง รับรองได้เลยว่าหากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดหลัง การออกกำลังกายในรูปแบบนี้ช่วยได้อย่างแน่นอน 

ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บได้ รู้หรือไม่ว่าการที่เราออกกำลังกายในรูปแบบนี้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะมีส่วนช่วยในการทำให้กล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมีความยืดหยุ่น และมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้กล้ามเนื้อบางส่วนไม่ตึง หรือมีอาการเกร็งได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการปวด ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี รับรองได้เลยว่า การออกกำลังกายในรูปแบบนี้จะไม่เพียงแค่ช่วยพัฒนาความแข็งแรงให้แก่ร่างกายของเราได้ แต่ยังช่วยเสริมสร้างส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้มีความแข็งแรงได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

เปลี่ยนนิสัยช่วยทำให้ลดความอ้วนได้ด้วยนะ 

เปลี่ยนนิสัยช่วยทำให้ลดความอ้วนได้  เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากผอมหรือลดความอ้วนนั้น หากเปลี่ยนแค่นิสัยบางอยากของตัวเองไป อาจจะทำให้เพื่อนๆและสาวๆ ผอมหรือลดความอ้วนได้ดั่งใจไวกว่าที่คิดอย่างแน่นอน เพื่อนๆและสาวๆ ลองมาดูกันดีกว่าว่าตัวเอง มีนิสัยอะไร ที่เปลี่ยนแล้วจะเวิร์ค และทำให้เพื่อนๆและสาวๆ ผอมได้ ไปดูกันเลย

-ชอบนั่งทำอย่างอื่นและก็กินอาหารไปด้วย

เพื่อนๆและสาวๆ ที่ติดการทำอย่างอื่นไปด้วย กินไปด้วยนั้นต้องระวังมากๆ เลยละ ใครที่ติดการดูทีวีไปด้วยกินไปด้วย ทำงานไปด้วยกินไปด้วย หรือแม้แต่การเล่นมือถือไปด้วย นั่งกินไปด้วน ทำให้เพื่อนๆและสาวๆ กินเยอะกินเพลิน โดยไม่รู้ตัวเลยละ เพราะว่าหากเราทำอย่างอื่นไปด้วยเราจะไม่ได้สนใจว่าตัวเองกินไปเยอะแค่ไหน เพราะฉะนั้นเวลากินต้องตั้งใจกินอาหารดีกว่านะ

-กินแต่อาหารแคลอรี่ต่ำ แทนอาหารอื่นๆ ทั้งหมด 

เพื่อนๆและสาวๆ ที่คิดว่าการกินอาหารแคลอรี่ต่ำอย่างเดียว ไม่ใช่ว่าเป็นการลดน้ำนหนักหรือลดความอ้วนที่ถูกต้องเลยนะ  หวยดี    เพราะว่าการกินอาหารที่แคลอรี่ต้ำอย่างเดียว จะทำให้ร่างกายเราขาดสารอาหารได้ง่ายและการกินอาหารแคลอรี่ต่ำอย่างเดียวไม่ได้แปลว่า มันจะไม่อ้วนนะ เพราะว่าการที่เรากินอาหารพวกนี้จะมี น้ำตาลแฝง มาในอาหารเพื่อให้รสชาติอาหารนั้นดีขึ้นยังไงละ 

-ชอบดื่มน้ำหวานๆ ระหว่างวันเพื่อความสดชื่น 

ปกติร่ะหว่างวันเราจะอยากกินอาหารหรืออยากขนม หรือ ของหวานๆ เพราะความเพลียหรือน้ำตาลตกระหว่างวันอยู่แล้ว แต่เพื่อนๆและสาวๆ คนไหนที่มีนิสัยในการดื่มน้ำหวานๆ ระหว่างวันเพื่อความสดชื่น เพื่อนๆและสาวๆ เชื่อหรือไม่ว่าหากเรากินเรื่อยๆ และไม่ได้ใช้พลังงานมากพอ จะทำให้เราสะสมไขมันได้ง่ายๆ มากเลยละ เพื่อนๆและสาวๆ หากอยากกินต้องนานๆๆๆกินทีพอนะ

-ออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่ง หนักหน่วง

มีเพื่อนๆและสาวๆ หลายคน เหมือนกันว่า ที่อยากผอมมากๆ เลยกลายเป็นว่าพยายามออกกำลังกายอย่างหนัก ออกกำลังกายอย่างหักโหมมากๆ นึกว่าจะผอมเร็วๆ แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นว่าร่างกายของเพื่อนๆและสาวๆ ยิ่งลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน ได้ยากยิ่งกว่าเดิมอีกนะเพราะว่าร่างกายเราเกิดความเครียดจนไม่ยอมเผาผลาญไขมันนั้นเอง 

-เครียดง่าย กดดันตัวเองบ่อย

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากผอม แต่ก็เครียดกับการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนได้ง่าย กดดันตัวเองในการลดน้ำหนักมาก จนสุดท้ายท้อก็ไปต่อไม่ได้ หรือ ร่างกายเครียดจนทำให้ไม่ยอมเผาผลาญไขมันได้เหมือนกัน

อาหารฟื้นฟูปอดให้แข็งแรง

เนื่องด้วยสถานการณ์บ้านเรานั้น เต็มไปด้วยโรคร้ายต่าง ๆ มากมาย ซึ่งหนึ่งในโรคร้ายที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้เป็นอย่างมากนั้นก็คือ โรคโควิด เพราะเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อปอดขิงเราโดยตรง โรคโรคนี้เป็นโรคที่มีความร้ายแรงเป็นอย่างมาก

อาหารฟื้นฟูปอดให้แข็งแรง ซึ่งสามารถทำให้เราเสียชีวิตลงได้ หากเรามาดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี อย่างไรก็ตาม เราก็คงทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่าโรคนี้อาจส่งผลกระทบต่อปอด หรืออาจทำให้ปอดของเรานั้นเสื่อมสภาพลงได้

ดังนั้น นอกจากการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี รวมไปถึงปอดด้วยนั้น ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าหากระบบหายใจของเรานั้นเกิดผลกระทบต่าง ๆ ก็จะทำให้การใช้ชีวิตของเรานั้นมีความลำบากมากยิ่งขึ้น ฉะนั้น สำหรับใครที่อยากดูแลรักษา หรือคงสุขภาพปอดให้แข็งแรง วันนี้เราก็มีอาหารที่สามารถช่วยในการบำรุงปอดให้แข็งแรงได้ แถมยังสามารถช่วยฟื้นฟูปอดหลังอาหารป่วยต่าง ๆ ได้อีกด้วย

จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

ขิง เรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรรัวเรือนที่ต้องมีติดบ้านไว้อย่างแน่นอน ในส่วนของขิง เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่นอกจากจะช่วยในการรักษาอาการบางอาการได้ ยังสามารถช่วยการบำรุงสุขภาพปอดของเราให้แข็งแรงได้อีกด้วย เรียกได้ว่าดีต่อระบบทางเดินหายใจเป็นอย่างมาก ซึ่งสรรพคุณของของนั้นก็สามารถช่วยล้างสารพิษในปอดได้ ช่วยให้เราหายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญเลยก็คือจะโดดเด่นในการลดการอักเสบได้เป็นอย่างดี 

บล็อกโคลี่ นอกจากอาหารชนิดนี้จะดีต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้ว รู้หรือไม่ว่าบล็อกโคลี่ เป็นผักที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะผักชนิดนี้จะอุดมไปด้วยวิตามินซี บี โฟเลต รวมไปถึงไฟโคเคมิคอล ที่สามารถช่วยป้องกันปอดของเราในสภาวะอากาศที่ไม่ดีได้อีกด้วย ยิ่งถ้าเราจะต้องออกไปเจอกับมลภาวะต่าง ๆ มากมาย มลพิษที่อาจส่งผลกระทบต่อปอดของเรา ขอบอกเลยว่าการทานบล็อกโคลี่เป็นประจำจะยิ่งช่วยในการส่งเสริมให้ปอดของเรามีสุขภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น 

กระเทียม เป็นอีกหนึ่งอาหารที่ทุกบ้านจะต้องมี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรครัวเรือนที่สามารถปรุงแต่งอาหารได้หลากหลายชนิดมาก ๆ รู้หรือไม่ว่ากระเทียมเป็นหนึ่งในอาหารที่สามารถช่วยในเรื่องของการบำรุงสุขภาพปอดได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่ากระเทียมจะมีฟลาโวนอยด์ ที่สามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญกลูต้าไธโอนได้ เพื่อช่วยเร่งการขจัดสารพิษที่ไม่ดีออกจากปอดของเรานั่นเอง นอกจากนี้กระเทียมดิบ ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการป้องกันการเกิดมะเร็งบางประเภทได้อีกด้วย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    alpha88

ความต้องการนอนหลับเหมือนเด็กทารกในช่วงวิกฤต

ความต้องการนอนหลับ วิกฤตที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ส่งผลให้เกิดบรรยากาศวิตกกังวลโดยทั่วไป ซึ่งเพิ่มระดับความเครียดและอาจนำไปสู่การนอนไม่หลับแม้ในผู้ที่ปกติแล้วไม่ทุกข์ทรมานจากโรคนี้ แม้ว่าการนอนหลับที่ดีเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพในช่วงเวลาปกติ แต่ในช่วงเวลาที่กักขังจะยิ่งมีมากขึ้นไปอีกการนอนหลับเป็นภาวะหมดสติที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากโลกภายนอก

ตามมาด้วยการลดระดับของกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆมนุษย์โดยเฉลี่ยใช้เวลาหนึ่งในสามของชีวิตในการนอนหลับ การนอนหลับสบายเป็นสิ่งสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ การนอนหลับอย่างมีคุณภาพและระยะเวลาที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงานของร่างกายและจิตใจในทางกลับกัน

การนอนหลับไม่ดีอาจทำให้บุคคลตกอยู่ในความเสี่ยงได้ทีละน้อย การอดนอนไม่ว่าจะเกิดจากความผิดปกติทางสรีรวิทยาหรือพฤติกรรมก็ตาม เพิ่มความอ้วน ลดภูมิคุ้มกัน ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ความจำและการทำงานอื่นๆลดลง

ในการวิจัยของฉันเกี่ยวกับยานอนหลับและระบาดวิทยาทางสังคม ฉันวิเคราะห์ความผิดปกติของการนอนหลับในกรณีที่ไม่ปกติ เช่น ผู้ที่เป็นโรคพาร์กินสัน คอลเซ็นเตอร์ และพนักงานบริการลูกค้าคำแนะนำเพื่อส่งเสริมการนอนหลับโดยอิงจากการสังเกตของบุคคลและวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยให้การพักผ่อนนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

กำหนดตารางเวลาปกติ เวลาเข้านอนและตื่นนอนเป็นประจำจะช่วยให้คุณมีกิจวัตรการนอนหลับที่ดีต่อสุขภาพ

ให้สัมผัสกับแสงธรรมชาติ เปิดหน้าต่างและเปิดรับแสงแดดให้มากที่สุด นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการปรับปรุงอารมณ์ของคุณและควบคุมนาฬิกาชีวิตของคุณ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะได้รับอากาศบริสุทธิ์ในลักษณะที่ควบคุมได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ

รักษากิจกรรมทางกายทุกวัน การเคลื่อนไหวร่างกายในช่วง Social Distancing จะช่วยให้คุณสร้างความเหนื่อยล้าให้กับร่างกายได้มากพอที่จะนอนหลับได้ง่ายขึ้นและนอนหลับได้ลึกขึ้น

จำกัดการงีบหลับ หากคุณไม่ได้นอนน้อยในคืนก่อน สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการนอนในตอนกลางวันหรือตอนบ่าย เนื่องจากจะช่วยลดความดันการนอนหลับและเพิ่มความเสี่ยงต่อการนอนไม่หลับ

 รักษาชีวิตทางสังคม ข่าวร้ายในสื่อสามารถสร้างความวิตกกังวลได้ สิ่งสำคัญคือต้องใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนและครอบครัวเพื่อให้จิตใจแจ่มใสและรักษาสุขภาพจิตของคุณ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่ออยู่คนเดียวหรืออยู่ห่างไกลจากครอบครัว

มีวินัยในการรับประทานอาหารของคุณ หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในตอนบ่ายเพราะอาจทำให้ประหม่าและนอนช้าในตอนเย็น การรับประทานอาหารมื้อใหญ่ที่อุดมเกินไปก่อนเข้านอนอาจทำให้นอนหลับได้ช้าลง บางคนไม่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ แม้จะดื่มกาแฟมาก และกินมากก็ตาม อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ควบคุมปริมาณและเวลาที่บริโภคในระหว่างวัน เนื่องจากอะไรที่มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อการนอนหลับได้

 

สนับสนุนโดย.   สมัครหวยดี

สุขภาพดี เริ่มต้นด้วยภูมิคุ้มกัน

เริ่มต้นด้วยภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี และแข็งแรง เพื่อปลอดภัย ห่างไกลจากโรคร้าย แต่ทว่าในสมัยปัจจุบันนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมาตั้งแต่เกิด เพราะการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถเสริมสร้างด้วยตนเองได้ โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีหน้าที่ที่คอยปกป้องเราอยู่ภายในร่างกายให้มีความปลอดภัยอยู่เสมอ

ซึ่งการมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงนั้น ก็สามารถสร้างได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยกระตุ้นระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยใหเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้

เพราะถ้าหากเราดูแลรักษาระบบภูมิคุ้มกันร่างกายได้ไม่ดี นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราแล้วนั้น ยังอาจส่งผลกระทบไปยังระบบต่าง ๆ ของร่างกายเราได้อีกด้วย ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ก็อาจเป็นต้นเหตุทำให้ร่างกายมีโอกาสต่อการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย ฉะนั้น วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดง่าย ๆ ในการดูแลระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการเลือกสารอาหารที่ดีให้แก่ร่างกายอยู่เสมอ เพื่อเป็นตัวกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

การเติมวิตามินดี เนื่องจากวิตามินดี เป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะวิตามินดีสามารถช่วยในการเสริมสร้างสารแคทเธซิดินจากเซลล์ เพื่อทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อที่จะได้ต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอ

หรือมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ควรเลือกรับประทานสารอาหารชนิดวิตามินดีให้แก่ร่างกายอยู่เสมอ ซึ่งสามารถหาได้จาก นม ชีส น้ำส้ม หรือแม้แต่โยเกิร์ต เป็นต้น เพื่อที่จะได้มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี และแข็งแรง

การเติมไขมันให้ร่างกาย หลานคนอาจจะมองว่าไขมันเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำใหสุขภาพร่างกายของเรานั้นแย่ หรืออ่อนแอ แต่รู้หรือไม่ว่า ไขมันในที่นี้สามารถแบ่งแยกออกเป็นสองประเภทด้วยกันคือ ไขมันเลว และไขมันดี ซึ่งแน่นอนว่าไขมันที่ควรเติมให้แก่ร่างกายนั้นก็ควรที่จะเป็นไขมันดี

เพราะเนื่องจากไขมันนั้นจะให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และเป็นสารตั้งต้นสำคัญที่สามารถช่วยสร้างฮอร์โมนให้แก่ร่างกาย ดังนั้น การที่เราไขมันดีย่อมส่งผลให้ภูมิคุ้มกันร่างกายดีไปด้วย ทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

 เห็ดชนิดต่าง ๆ เนื่องจากเห็ดมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรเลือกรับประทานเพื่อช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพื่อช่วยในการกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือกขาวให้ทำงานได้อย่างมาประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อที่จะได้ช่วยให้เรามีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    หวยฮานอยดึก

ออกกำลังกายตอนท้องว่างมันดีอย่างไร

หลายคนสงสัยว่าโกรทฮอร์โมนมันเกี่ยวอะไรกับการที่เราเผาผลาญไขมันจริงๆแล้ว  ออกกำลังกายตอนท้องว่าง   ก็ต้องบอกแบบนี้ว่าโกรทฮอร์โมนนั้นมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องของการเผาผลาญไขมัน

เพราะว่ามันเป็นฮอร์โมรในการเติบโตดังนั้นในขั้นตอนของการเจริญเติบโตมันจะต้องใช้พลังงานในรูปของไขมันในระดับที่สูงมาเช่นกันแต่นอกเหนือจากโกรทฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นมายังไม่พอ เนื่องจากในภาวะที่เราท้องว่างมันได้มีฮอร์โมนอีกตัวนึงที่สูงขึ้นเช่นกันนั่นก็คือ กรูคากอน 

ซึ่ง กรูคากอน จะเป็นตัวฮอร์โมนที่ตรงข้ามกันกับอินซูลินเลยคือฮอร์โมนอินซูลินเป็นการที่เอาของใหม่ๆเข้ามาเก็บอย่างเช่นพวกโปรตีนกลูโคสพวกนี้ในขณะเดียวกันถ้าไม่มีอินซูลินอยู่ในกระแสเลือดกรูคากอนในการที่จจะนำพาพลังงานที่เรากักเก็บเอาไว้ในร่างกายในรูปแบบของไขมันส่วนเกินนำเอามาใช้ก็คือแปลว่าตอนที่เราท้องว่างร่างกายของเราจะใช้ไขมันส่วนเกินอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

ดังนั้นมันจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมการคาร์ดิโอในช่วงท้องว่างคือทำให้เราสามารถเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งๆขึ้นไปอีกแต่ตอนนี้หลายๆคนอาจจะสงสัยแล้วว่า ถ้าคาร์ดิโอตอนท้องว่างผมไปศึกษามาแล้วถ้าคุณคาร์ดิโอในอตนเช้าคุณจะเสียกล้าเนื้อร่างกายจะทิ้งโปรตีนออกไปจะเผาโปรตีนไปด้วยทำให้เราเสียกล้ามเนื้อ

โดยในช่วงที่เราท้องว่างนอกเหนือจากตัวโกรทฮอร์โมนแล้วก็กรูคากอนที่มันทำงานแล้วใช่ไหมร่างกายท้องว่างแล้ว  กริลแอร์    เราไปคาร์ดิโอมันจะมีพลังงานตัวนึงที่จะออกมาในรูปของ BHB หรือ คีโตนบอดี้ ซึ่งคีโตนบอดี้นั้นมาจากไหนมันก็มาจากไขมันส่วนเกินของเรานั่นเอง

ซึ่งตัว BHBตรงนี้มันจะเป็นตัวช่วยปกป้องไม่ให้กล้ามเนื้อเกิดภาวะLeucine oxidation ภาวะที่เราสูญเสียกล้ามเนื้อลูซีนคือกรดอะมิโนตัวนึงที่อยู่ในกล้ามเนื้อของเราถ้ามันเกิดภาวะสันดาบแปลว่าคุณเริ่มสูญเสียกล้ามเนื้อนั่นเหมือนกับว่าร่างกายอยู่ในภาวะที่แบบอดอาหารมาเป็นเวลายาวนานหรือว่าคุณออกกำลังกายนานเกินไป

เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นในภาวะที่คุณออกกำลังกายหนักด้วยและก็ทานอาหารน้อยมากๆร่างกายจะเกิด Leucine oxidationก็คือร่างกายมันจะเริ่มทิ้งโปรตีนออกไปแล้วก็อาโปรตีนพวกนี้ไปแปลเปลี่ยนเป็นกลูโคสเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไป

ดังนั้นการที่ตัว BHB ตรงนี้มันจะทำให้กล้ามเนื้อของคุณยังคงถูกตึงไว้และไม่สูญเสียกล้ามเนื้อไปง่ายๆแล้วก็อีกประเด็นนึงก็คือนอกเหนือจากตัวBHBมันยังมีฮอร์โมนอีกตัวนึงมันชื่อกลุ่มCatecholamineและยังมีอยู่ในกลุ่มหลักอีกก็จะมีสองตัวด้วยกันคือ Epinephrine Norepinephrine แต่ถ้าเอาเป็นที่คนทั่วไปรู้จัก Adrinaline Noradrinalie นั่นเอง

เทคนิดลดหน้าท้องล่างให้ได้ผล

เวลาเราลดไขมันทานน้อยลงออกกำลังกายมากขึ้นร่ากายก็จะถูกใช้ไขมันออกไปแต่ท้องส่วนล่างร่างกายใช้ไปในสัดส่วนที่น้อยที่สุดเลยอาจจะ5-10%ร่างกายใช้ไขมัน  เทคนิดลดหน้าท้องล่าง ส่วนใหญ่ตามแขนตามขาตามส่วนอื่นๆก่อน เมื่อไขมันตามแขน ขา ชัดขึ้นแล้วร่างกายจึงใช้ไขมันตามท้องส่วนล่างและก็บริเวณพุงห่วงยางในสัดส่วนที่สูงขึ้น

ดังนั้นหมายความว่าเราต้องใช้เวลาลดที่นานหน่อยแต่ถ้าเป็นคนปกติเลยไขมันผู้ชาย20-30%เราต้องลด10อาทิตย์ขึ้นไปแน่นอนนั่นหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยจากการทานน้อยๆนานๆและระบบเผาผลาญตกลงฮอร์โมนเพศชายตกลงทำให้เราอาจจะสูญเสียกล้ามเนื้อแรงตก

ข้อหนึ่งถ้าเราต้องการที่จะลดหน้าท้องส่วนล่างปรับการเผาผลาญ1ครั้งและ1ครั้งนั้นจะต้องนานกว่าปกติจากที่เราเคยสอนเมื่อเราลดลงมาเจอทางต้นปรับเผาผลาญทานเยอะขึ้น2-3สัปดาห์ถูกไหมแต่อย่าลืมเมื่อไขมันในร่างกายน้อยมากๆแล้วสมมติคุณผู้ชายลดลงมา

จนเหลือ15%ไขมันมันน้อยแล้วนะเราต้องการลดอีกความยากมันจะเพิ่มขึ้นให้เราอยู่ในช่วงเมนเทรนตรงนี้นานกว่าปกติอาจจะเป็น4-5สัปดาห์เพื่อให้ความล้าของเราอยู่ในร่างกายต่ำที่สุดเตรียมร่างกายของเราให้พร้อมที่สุดฮอร์โมนสมดุลสมบูรณ์มากที่สุดหลังจากนั้นเราลดอีกรอบหนึ่งซึ่งเราจะถึงเปอร์เซ็นต์เป้าไว้แน่นอนสำหรับคุณผู้หญิงก็จะอยู่ที่ประมาณ15-25%ของไขมันในร่างกายท้องส่วนล่างมันจึงจะหายไป

ข้อสอง ถ้าเราอยากลดหน้าท้องส่วนล่างเราต้องหลีกเลี่ยงกลุ่มน้ำตาล ซึ่งจริงๆแล้วเวลาที่เราทานคาร์โบไฮเดรตประเภทแป้งประเภทข้าวเข้าไปในร่างกายของเราสุดท้ายแล้วมันก็ย่อยได้น้ำตาลรวมทั้งการทานพวกมันเทศ ทานผลไม้ สุดท้ายแล้วย่อยมามันก็คือน้ำตาล

ถ้าเราบอกว่าไม่ทานน้ำตาลเลยมันก็คงไม่ถูกต้องที่เราต้องหลีกเลี่ยงน้ำตาลมันคือน้ำตาลอุตสาหกรรมนั่นเองมันคือน้ำตาลซูโครสที่ประกอบไปด้วย ฟรักโตส บวกกับกลูโคส มีงานวิจัยชัดเจนว่าน้ำตาลฟรักโตสที่มากเกินไปทำให้อินซูลิน รีซิสแตนท์ หมายความว่าปกติแล้วเวลาเราทานอาหารเข้าไป

อินซุลินจะทำหน้าที่ดึงสารอาหารเข้าไปที่เซลล์กล้ามเนื้อเพื่อไปใช้เป็นพลังงานแต่ถ้าเกิดอินซุลิน รีซิสแตนท์ มันจะกักเก็บเข้าไปที่เซลล์ไขมันแล้วที่แรกให้คุณเดาว่ามันจไปเก็บที่ไหนมันเก็บที่หน้าท้องส่วนล่างหรือที่พุงนั่นเองแน่นอน

เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเราหลีกเลี่ยงพวกอาหารประเภทนี้ทำให้อินซูลินเราทำงานได้ดีคน2คนทานพลังงานเท่ากันแต่อีกคนหนึ่งที่ทานพลังงานจากน้ำตาลเยอะกว่าคนนี้จะเก็บไขมันที่หน้าท้องส่วนล่างเยอะกว่าแน่นอนทีนี้ถ้าเกิดว่าเพื่อนๆต้องการจะทานแนะนำว่าตอนไดเอทตอนลดไขมันหลีกเลี่ยงได้ก็ดีหรือถ้าต้องทานทานในวันที่เยอะขึ้นตามที่เคยสอนไว้ได้ประมาณ25-50กรัมก็เพียงพอ

 

สนับสนุนโดย.    aesexy

ห้ามทานวิตามินซีถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้

สำหรับวิตามมินซีหรือเขาเรียกว่าAscorbic Acid มันก็มีความเป็นกรดชนิดหนึ่งมันชื่อว่า Ascorbic Acidเป็นสารอาหารที่มีความปลอดภัยสูงมากๆเลยโดยปกติตัวของมันแล้วแทบจะไม่มีโทษอะไรเลยอันดับแรกก็สบายใจในเบื้องต้นว่ามันไม่น่าจะเกิดโทษรุนแรงจนถึงตายได้นะสำหรับวิตามินซี

นอกจากนี้ยังไม่พอมันยังช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ

ทำให้ร่างกายของเราเจริญเติบโตสมวัยมีสุขภาพร่างกายดีมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นบรรเทาอาการหวัดประโยชน์เยอะแยะเลยแต่ว่า ข้อแรกสำหรับท่านที่ทานวิตามมินซีจะต้องรู้ว่าถ้าทานวิตามินซีที่มากเกินไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น 

เมื่อไหร่ที่ท่านทานวิตามินซีที่มากเกินร่างกายต้องการแล้วจะมีผลเสียหลายอย่างเกิดขึ้นแม้ไม่รุนแรงถึงชีวิตแต่ก็น่ารำคาญมากสำหรับข้อแรกวิตามินซีที่ท่านทานมากไปนั้นจะทำให้กระเพาะของท่านเกิดการระคายเคืองวิตามินซีเมื่อเราทานเข้าไปมันจะดูดซึมไม่ได้ทั้งหมด

ถ้าท่านทานวิตามินซีที่มีปริมาณมิลลิกรัมเยอะเช่น1,000มิลลิกรัมอาจจะดูดซึมได้แค่50%แล้วมี50%ตกค้างอยู่ถ้า2,000มิลลิกรัมทานไปครั้งเดียวดูดซึมอาจจะได้แค่แบบ30%เท่านั้นจะเหลือตกค้างอยู่

ซึ่งส่วนที่ตกค้างจะทำให้เราแบบแสบกระเพาะบ้างท้องอืดท้องเฟ้อเป็นตะคริวที่ท้องบ้างไม่สบายบ้างเยอะแยะไปหมดเลยนี่ก็คือข้อเสียเมื่อท่านทานมากเกินไปยังไม่พออันตัววิตามินยังทำให้ท่านดูดซึมธาตุเหล็กมากเกินไปแล้วยังไงล่ะเมื่อท่านดูดซึมธาตุเหล็กมากเกินไป

สิ่งที่เกิดขึ้นนั่นก็คือร่างกายเรามีธาตุเหล็กมากเกินไปและเมื่อในร่างกายมีธาตุเหล็กมากเกินไปเหล็กก็จะไปสะสมตามส่วนร่างกายต่างๆก็อาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนเวียนหัววิงเวียนไม่พอผิวเนื้อผิวตัวอาจจะมีสีดำเข้มก็มีโรคต่างๆตามมาหลายโรค

เพราะฉะนั้นก็ต้องระมัดระวังให้ดีและยังไม่พอส่วนที่ไม่โดนดูดซึมตัววิตามินซีระลายในน้ำเพราะฉะนั้นเวลามันขับออกนอกร่างกายมันขับทางปัสสาวะของเราวิตามินซีที่มันได้เหลือในส่วนเกินมันก็จะขับออกในทางเดินปัสสาวะวของเราและเมื่อส่วนเกินนี้มันได้ถูกขับออกทางด้านปัสสาวะของเราแล้วก็แปลว่ามันอาจจะเกิดตะกอนเกิดขึ้น

เมื่อมันได้มีตะกอนอยู่เยอะๆมันก็จะกลายเป็นนิ่วมันอาจจะเกิดเป็นนิ่วในตับของเราตามมาได้ถ้าหากท่านทานวิตามินซีที่ยาวนานแล้วก็รับประทานในจำนวนที่มากจนเกินไปอันนี้ถือได้ว่ามีความอันตรายอย่างมากและนี่ก็เป้ฯข้อมูลที่ท่านควรจะต้องรู้ก่อนที่ท่านนั้นจะรับประทานวิตามินซีจะมีอะไรเกิดขึ้นหากทานวิตามินซีมากเกินไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  หวยออนไลน์บาทละ 1000

การดูแลตนเองก่อนวัยทอง วัยทอง และหลังวัยทอง

ในวัยทองนั้นมักจะมีอาการต่าง ๆ การดูแลตนเองก่อนวัยทอง  เกิดขึ้นมาให้รู้สึกรำคาญใจเสมอ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ฮอร์โมนเพศต่าง ๆ ที่เคยมีและจำเป็นกลับลดลง และหายไป สังเกตดได้ในเพศหญิงที่อายุมาก คือ ประจำเดือนหมดแล้ว หายไปแล้วเมื่อหายไปครบ 1 ปี ก็จะเรียกช่วงอายุหลังจากนี้ว่า วัยทอง 

อาการที่พบในวัยทอง เช่น ร้อนวูบวาบ ช่องคลอดแห้ง อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า และอื่น ๆ ซึ่งทำให้ผู้หญิงวัยทองควรจะดูแลตนเองเช่นไรบ้าง จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลย

ข้อเสนอแนะการรักษาสุขภาพตอนก่อนวัยทอง ในตอนวัยทอง และก็หลังวัยทอง

– ตอนก่อนวัยทอง หรือประมาณอายุไม่เกิน 40 ปี

การดูแลตนเองก่อนวัยทอง  ในตอนนี้ควรจะหันมาเริ่มตั้งใจดูแลสุขภาพ โดยการเลือกทานอาหารให้ครบประเภท เลี่ยงรสจัด พักให้ตรงเวลาอย่างพอเพียง สามารถหาสมุนไพรที่ได้จากธรรมชาติมาบำรุงด้วยการกิน เพื่อปรับสมดุล หรือชะลอการเปลี่ยนฮอร์โมนภายในร่างกาย รวมทั้งช่วยลดอาการวัยทองให้น้อยลงได้ หากว่าไปสู่ภาวการณ์วัยทองในอนาคต

 

– ตอนวัยทอง อายุระหว่าง 40 – 55 ปี

ขณะนี้เป็นตอนที่มีการเปลี่ยนของฮอร์โมนเอสโตรเจน เป็นฮอร์โมนในผู้หญิง ซึ่งจะมีน้อยลงเมื่อแก่ขึ้น ทำให้มีลักษณะ ดังต่อไปนี้ ร้อนวูบวาบ เมื่อยตามร่างกาย อารมณ์ปรวนแปร รำคาญง่าย นอนยาก ฯลฯ บางรายมีลักษณะสูงถึงขั้นจำต้องไปพบหมอ เพื่้อกระทำการรักษาโดยใช้การกินยาฮอร์โมนตอบแทน ซึ่งช่วยได้ในระดับที่ดี แต่ว่าอย่าลืมว่า ถ้าหากทานเป็นระยะเวลาที่ยาวนานต่อเนื่องกัน จะมีผลให้เป็นผลใกล้กันดังที่กล่าวมาจากจุดบกพร่องของยาฮอร์โมนชดชเย

สมุนไพรที่ได้มาจากธรรมชาติก็เลยเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับคนวัยทอง ด้วยเหตุว่าไม่มีการตกค้างของสาร หรือการสั่งสมต่าง ๆ ตามร่างกาย ที่สามารถทานสมุนไพรได้ตั้งแต่เนิ่น ๆเนื่องจากว่าจะใช้เวลาสำหรับในการได้ผลลัพธ์ โดยจะเน้นย้ำเป็นสมุนไพรอย่าง ตังกุย เนื่องจากว่าคุณประโยชน์ของตังกุยมเกี่ยวข้องกับการปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจน รวมทั้งเพิ่มระบบไหลเวียนเลือด

 

– หลังวัยทอง

ในวัยนี้จะเริ่มไปสู่วัยสูงอายุ และก็เป็นตอน ๆ หยุดการตกไข่นั่นเอง การรักษาสุขภาพร่างกายในวัยนี้ ไม่สมควรเน้นย้ำกินยาชดเชยฮอร์โมน เพราะว่าตับแล้วก็ไตจะทำงานมาก บางทีอาจส่งผลเสียถึงสุขภาพได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวการดูแลตนเองด้วยแนวทางธรรมชาติ ก็เลยเป็นโอกาสที่เยี่ยมที่สุด ทั้งยังของกิน การบริหารร่างกาย การออกไปท่องเที่ยว หรือถ้าหากต้องการหาอะไรมาบำรุงร่างกาย ให้เน้นย้ำสมุนไพรที่ได้จากธรรมชาติ เนื่องจากจะไม่ทิ้งสารตกค้างภายในร่างกาย นับได้ว่าเป็นช่องทางสำหรับการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายที่คู่ควรสูงที่สุดสำหรับคนวัยนี้

 

 

สนับสนุนโดย.    lovebet999

ท้องผูกบ่อย ๆ เสี่ยงโรคอะไรบ้าง

ท้องผูกบ่อย ๆ  เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากระบบขับถ่ายของเราทำงานไม่เป็นปกติ หรือเกิดขึ้นจากการขับถ่ายน้อยเกินไป หรือในบางครั้งก็อาจอั้นอุจจาระนานเกินไปจนส่งผลให้เกิดท้องผูก สมัยนี้อาการท้องผูกพบได้บ่อยไม่แพ้อาการอื่น เนื่องคนส่วนใหญ่มักจะมีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปด้วย คนเราหากต้องการมีสุขภาพร่างกายที่ดี การขับถ่ายก็ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะการขับถ่ายเป็นประจำ

หรือการขับถ่ายให้เป็นเวลาจะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งก็อาจส่งผลให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้ดีเช่นกัน แต่เชื่อเถอะว่าสมัยปัจจุบันนี้คนเรานั้นก็มีพฤติกรรมการขับถ่ายค่อนข้างที่จะแตกต่างกันออกไป แต่ถึงอย่างนั้นการที่เราขับถ่ายออกมาเป็นประจำก็จะช่วยลดอาการท้องผูกของเราได้

แต่เมื่อไหร่ที่เราไม่ขับถ่าย ขับถ่ายน้อย หรืออาจขับถ่ายน้อยกว่า 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็อาจส่งผลให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดท้องผูก หรือมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคร้ายตามมาได้ อย่างไรก็ตาม อาการท้องผูกนับเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม ยังไงก็ลองสังเกตอาการตัวเองเบื้องต้นดูว่ามีความผิดปกติในรูปแบบไหนบ้าง เพราะอาการท้องผูกมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคร้ายได้เช่นกัน และวันนี้เราจะมียกตัวอย่างโรคร้ายที่อาจมาพร้อมกับอาการท้องผูก จะมีโรคไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ แน่นอนว่าเป็นโรคที่อาจเกิดขึ้นจากอาการ ท้องผูกบ่อย ๆ ได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เรามีอาการท้องผูกเรื้อรังขึ้น ก็ย่อมส่งผลให้ร่างกายมีโอกาสสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างมาก ดังนั้น ทางที่ดีควรหมั่นตรวจสุขภาพร่างกาย เพราะอาการท้องผูกไม่เพียงเป็นแค่อาการธรรมดาที่เกี่ยวกับระบบการขับถ่ายของเราเท่านั้น หากปล่อยไว้ หรือปล่อยให้หายเอง อาการอาจถึงขั้นเรื้อรัง และเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ 

โรคลำไส้อุดตัน หากมีอาการท้องผูกอยู่บ่อย ๆ แนะนำให้ตรวจเช็คร่างกาย เพราะคุณมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคลำไส้อุดตัน เพราะหากร่างกายของเราไม่ได้ขับถ่ายออกมา ก็จะส่งผลให้ร่างกายของเรารู้สึกอึดอัด จุดเสียด แน่นท้องมากขึ้น เพราะเกิดจากการที่เราถ่ายไม่ออก หรืออั้นอุจจาระนานเกินไป โรคลำไส้อุดตันเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก มีโอกาสที่จะส่งผลให้เราได้เข้ารับการผ่าตัดได้ ดังนั้น หากไม่อยากท้องผูก แนะนำให้เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

โรคริดสีดวง  โรคนี้จะเกิดขึ้นจากการที่เบาะรองเกิดการเคลื่อนตัวห้อยตัวลงมาต่ำกว่าปกติ หรือโป่งพองอยู่ถึงแม้จะขับถ่ายเสร็จแล้วก็ตาม หรือในบางครั้งในระหว่างการขับถ่ายอาจมีเลือดปนออกมาบ้าง หากอาการนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ หรือเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็สามารถสร้างความรำคาญใจให้กับใครหลายคนจนต้องเข้ารับการผ่าตัดก็ได้ ดังนั้น โรคริดสีดวงทวารจึงเป็นอีกหนึ่งโรคที่อาจเกิดขึ้นจากอาการท้องผูกได้ 

 

สนับสนุนโดย.  aecasino